Month: August 2016

ก่อนอื่นต้องแนะนำก่อนว่าบัตรเครดิตที่เป็นธนาคารพาณิชย์มีแค่ 3 แห่งที่ไม่เสียค่าธรรมเนียมแบบเงื่อนไขสบายๆ คือ KTC กรุงศรี TMB ส่วนบางธนาคารก็ฟรีเหมือนกันแต่ เงื่อนไขอาจจะไม่เรียกว่าสบาย เช่น กสิกร ต้องใช้ 12 ยอดใน 1 ปี ไป 2-3ปีแล้วจะได้ฟรีตลอดไป มันก็ทำได้ง่ายๆแหละแต่รู้สึกยุ่งยากใจมากกว่า และอีกตัวอย่างก็เช่น UOB มีบางคนบอกฟรีตอนแรก หลังๆบางทีก็เปลี่ยนเป็นเสีย แล้วแบบนี้จะมั่นใจได้ยังไง ถ้าประกาศมาเลยแบบใจหน่อยว่าฟรีตลอดไปเหมือนของ กรุงไทย มันก็จะได้อุ่นใจ ส่วนบัตรเครดิตอีกกลุ่มคือบัตรจากสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ พวกนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่ามีบัตรอะไรที่ฟรีบ้าง คือในเรื่องของบัตรเครดิตนี้ เราจะแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ 2 กลุ่มคือ ธนาคารพาณิชย์ กับ สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ เช่น Tesco Lotus, บัตรเครดิตเซ็นทรัล คราวนี้มาเจาะลึกของกรุงไทย ที่สนใจกรุงไทยก็เพราะในปัจจุบันนี้กรุงไทยเป็นที่ 1 ในเรื่องจำนวนบัตรเยอะประเภทมากที่สุด ประมาณ 70 กว่าใบ คือการตลาดเขาเป็นแบบนั้นและก็ทำสำเร็จด้วย คือมองว่าทุกใบเท่าเทียมกัน แต่ต่างกันตรงรูปแบบการใช้มากกว่า คือสมัยก่อนบัตรแต่ละระดับจะเป็นเกรดเลยโดยแบ่งกันด้วยเงินเดือน จะสมัครบัตรใบสูงๆได้ต้องเงินเดือนเยอะๆ 5หมื่นหรือ 7หมื่นอะไรแบบนี้ ระดับการแบ่งแต่ละแห่งก็น่าจะคล้ายๆกัน คือมันก็จะมี ธรรมดา บัตรทอง …

จาก [1] มี 2 อย่างที่น่าสนใจคือ Limit how many programs run at startup Turn off visual effects เริ่มจากข้อ visual effects ก่อนเลย คือ เมื่อก่อนเคยลองใช้งานดูมันมีให้เราเลือกว่าจะเอาสวยหรือจะเอาเร็ว ซึ่งพอเราเลือกเอาการทำงานเร็ว ปรากฏว่ามันเปลี่ยน Theme ของ Windows เป็นแบบเก่าหมดซึ่งพอเปลี่ยนกลับไปเลือกแบบสวยมันดันไม่เปลี่ยนกลับให้เหมือนเดิม มาคราวนี้เลยไม่กล้าจะไปยุ่งกับมันแล้วจึงต้องหาข้อมูลก่อน [2] อันนี้แนะนำให้ไม่เอาพวกนี้ Fade out menu items after clicking Enable transparent glass (you will lose the cool Aero look though) Animations in the taskbar Fade or slide menus into …

1 อธิบายชัดเจนดี เขาบอกว่ามีสถานะ 5 แบบ 1.เปิด 2.ปิด ไม่ใช้ไฟเลย ไม่เก็บข้อมูล เปิดใหม่นาน เพราะต้องเปิดงานทุกอย่างใหม่หมด เปิด/ปิดอันนี้ชัดเจน 3.hibernate ปิดแบบตัดไฟเลย แต่ก่อนตัดเก็บข้อมูลลง HDD เปิดมาใหม่เร็วเพราะงานที่ค้างไว้เปิดใช้ได้เลย ข้อมูลจะไม่หายไปไหน 4.sleep ปิดแบบไม่ตัดไฟ แต่ใช้ไฟน้อยๆ เก็บข้อมูลลงแรม เปิดมาใหม่เร็วมาก เพราะแรมมันรับส่งข้อมูลเร็วกว่า HDD แต่ถ้าระหว่าง sleep ไฟตัด ข้อมูลจะหายหมด 5.hybrid sleep เหมือน sleep เลย คือปิดแบบไม่ตัดไฟ แต่ใช้ไฟน้อยๆ แต่เก็บข้อมูลลงทั้งแรมและลง HDD ดังนั้นถ้าไฟไม่ตัดไป เวลาเปิดมันจะเอาข้อมูลจากแรมมาใช้ทำให้เปิดเร็วมาก แต่ถ้าระหว่าง hybrid sleep ไฟดับ เปิดมาใหม่ข้อมูลก็จะไม่หายเพราะยังมีเก็บไว้ที่ HDD แต่จะเปิดไม่เร็วมากแค่นั้นเอง ดังนั้นจะเห็นว่า 4 กับ 5 ยังเสียค่าไฟอยู่ แต่ 3 นี่ปิดสนิทไม่เปลืองไฟ …

pagefile.sys คือ Virtual Memory เอาไว้ให้ Windows ใช้งาน โดยถ้าเราอยากจะลบมันเราก็แค่เข้าไปเลือกว่า No paging file แล้วพอ Restart เครื่อง ไฟล์ที่เคยเป็น pagefile.sys มันก็จะหายไปเอง แต่ถ้ายังไม่ Restart ไฟล์ที่เคยมีอยู่แล้วมันก็จะยังอยู่นะ ส่วนเวลาเราสร้าง pagefile ที่ hdd ลูกใหม่ มันจะสร้างไฟล์มาเตรียมไว้เลยตาม init ที่เราตั้ง จะยังไม่ถึงขนาด max แต่ถ้าเราใช้เกินมันก็จะเพิ่มไปเรื่อยๆจนถึงmax ส่วน hiberfil.sys เอาไว้เก็บข้อมูลเวลาเราใช้งาน Hibernate คือการปิดเครื่องโดยที่ Save โปรแกรมและข้อมูลทั้งหมดที่เปิดค้างไว้อยู่ลง HDD แล้วพอเปิดมาใหม่มันก็เอาที่ Save เก็บไว้เปิดมาให้ใช้ได้เลย ทำให้เปิดเครื่องเร็วและงานค้างก็ยังอยู่ แต่ถ้าเราไม่ได้ใช้งาน Hibernate เราก็จะเปลืองที่ใน HDD ดังนั้นสามารถลบออกไปได้โดยปิดการทำงานของ Hibernate [1] บอกมี 2 วิธี run command as admin แล้วใส่ powercfg –h …

Last Updated on 2021-08-23 สรุป ตามความเห็นส่วนตัวคือ ไม่ต้องไปยุ่งกับมัน ปล่อยให้มัน Automatically manage paging file size for all drives ไปเลย   คือในอดีต มันจะมีหลักการเซ็ตอยู่ เช่น  1.5 เท่าของ Ram,  2 เท่าของ Ram แต่จะเท่าไหร่ก็ตามอย่าให้น้อยกว่าแรม แต่มาในปัจจุบันนี้ แรมถูกใช้งานเพิ่มมากกว่าเมื่อก่อนเยอะ เช่นเดี๋ยวนี้ 8GB ก็ถือเป็นขนาดระดับทั่วๆไปแล้ว หรือถ้าใช้เยอะหน่อยก็ 16-32GB แล้วถ้าเรายังใช้หลักการเดิมคือ ห้ามน้อยกว่าแรมที่มี งั้นเราต้องเซ็ตถึง 32GB ซึ่งรู้สึกว่าเปลืองเนื้อที่ HDD มากเกินไป ดังนั้นจึงอยากรู้ว่า ในปัจจุบันที่มีการใช้แรมสูงมากขึ้น เราควรจะเซ็ตขนาดของ Virtual Memory ให้เป็นเท่าไหร่ ยังจะให้เยอะกว่าแรมเหมือนเมื่อก่อนอีกมั้ย ทั้งที่แรมในปัจจุบันมีใช้เยอะจนแทบจะเพียงพอใช้งานอยู่แล้ว [1] อันนี้บอกว่าให้เซ็ตอยู่บน HDD คนละลูกกับ System ต้องคนละลูกเลย …

msconfig regedit control userpasswords2

คำว่า Genius นี่เราคงรู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่คำว่า Prodigy นี่อาจจะนานๆทีหรือไม่เคยได้ยิน แต่ถ้าเจอก็อย่าสงสัย เพราะมันแปลไปทางเดียวกันกับ Genius ก็คือเก่งมากๆนั่นแหละ ดูตัวอย่างการใช้จาก [1] ก็ได้ หัวข่าวใช้คำว่า Genius พอในเนื้อหาใช้คำว่า prodigy He’s *Not* Actually A Coding Genius Mark Zuckerberg is not a “programming Prodigy” ส่วนความหมายก็เอาตามที่ [2] บอกคือ Genius นั้นอันดับแรกคือ ฉลาดแน่ๆยืนพื้นอยู่แล้ว และยังจะมีอย่างอื่นอีกหลายๆอย่างมาประกอบเข้าไปอีก เช่น ความสร้างสรรค์ เช่น ไอน์สไตน์ ส่วน Prodigy นั้นจะเน้นไปที่ความเก่งของเด็ก คือยังอายุน้อยแต่ทำอะไรบางอย่างได้ในระดับสูงของทางด้านนั้น เช่น โมสาร์ท ที่แต่งเพลงตอน 5 ขวบ มีการพูดถึง Adam D’Angelo อดีต CTO ของ Facebook ว่าอยู่ระดับ Top ด้วย   …

  บอกว่าการออกกำลังกายไม่ใช้วิธีลดน้ำหนัก มันลดได้เหมือนกันแต่ยากมาก ไร้ประโยชน์ ต้องออกกำลังกายเยอะมากเพื่อลดน้ำหนักไปได้แค่นิดเดียว การออกกำลังกายนั้นจุดหลักคือเพื่อให้ร่างการแข็งแรง แต่ไม่ใช่เพื่อลดน้ำหนัก เขาทดลองโดย คนหนัก 200 ปอนด์ วิ่ง 4 วัน/อาทิตย์ วันละ 1 ชม 1 เดือนผ่านไป ลดไป 5 ปอนด์เอง กินโดนัท 2 ชิ้น ต้องออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยานเป็น ชั่วโมง ถึงจะชดเชยเท่ากัน พลังงานในร่างกายจะถูกใช้ไปใน 3 เรื่อง metabolism (เยอะสุด) ย่อยอาหาร(น้อยสุด) และ physical activity ประมาณ 30% คือกิน 100% แต่คุมการ เผาผลาญพลังงานได้แค่ 30% จากการออกกำลังกาย เวลาออกกำลังกายเยอะเกินไปก็มีข้อเสียทำให้เรากินเยอะขึ้นและ metabolism ลดลงด้วย คนปกติที่นั่งทำงานหน้าคอมทั้งวันกับชาวเผ่าที่ทำกิจกรรมออกล่าทั้งวัน ตรวจพบว่า มีการใช้พลังงานหมดไปพอๆกันเลย แล้วทำไมชาวเผ่าถึงผอม คนปกตินั่งหน้าคอมถึงอ้วนเขาตอบว่า “so how …

จากบทความอันนี้ https://www.weforum.org/agenda/2016/03/5-rituals-that-will-help-your-brain-stay-young แปลแบบมั่วๆ เขาบอกว่าอาหารที่สมองชอบคือ -blueberries, kale, and nuts -whole grain, fish, fruits, and red wine -smiling การยิ้มช่วยให้สมองคิดบวก และ 5 สิ่งที่ช่วยบำรุงสมอง 1.ยินดีแม้สำเร็จเล็กๆ สมองเราชอบ 2.ออกกำลังกายแค่ 20 นาทีให้เลือดสูบฉีดเลี้ยงสมอง 3.นั่งหลังตรงอย่างอ อย่าก้มหน้าเล่นมือถือ ถ้าจะเล่นให้ยกขึ้นมาดูตรงหน้าเลย ช่วยให้ เพิ่มความมั่นใจ เพิ่งพลัง อารมณ์ดี 4.ฝึกพูดภาษาใหม่ๆ เล่นเครื่องดนตรีใหม่ๆ ฝึกนั่งคิดไอเดียอะไรก็ได้สัก 10 อย่าง 5.อย่าเอาโทรศัพท์วางใกล้ตอนนอน

ข้อสังเกตในการตัดสินใจ   1.เริ่มจากเรื่องเติมเงินก่อนเลย เติมเงินเข้า wallet ได้ที่ไหนค่าเติมเท่าไหร่ เอาแบบสะดวกเลยก็คือเติมที่ 7-11 ค่าเติมฟรี โดยเติมแบบออนไลน์ แต่ไม่รู้ว่าจะฟรีไปถึงเมื่อไหร่ ถ้าจะให้ชัวร์ต้องจุดบริการของทรู อันนี้ฟรีตลอดไปแน่นอน   2.เติมเงินแต่ละครั้งต้องเติมตามราคาที่กำหนดคือ 500 1000 2000 บางทีอยากจ่ายค่าน้ำแค่ 200 แต่ต้องเติม 500 ทิ้งเงินค้างไว้ฟรีๆ 300 กว่าจะได้จ่ายอีกก็เดือนหน้า เงินที่ยอมใส่ไปล่วงหน้ายังใช้ไม่หมดเลย   3.จ่ายบิลฟรีจริง แต่ไม่รู้ว่าจะฟรีไปจนถึงเมื่อไหร่ เพราะที่ผ่านมาก็มีประกาศออกมาตลอดว่าฟรีไปจนถึงเดือนนั้นเดือนนี้ ถึงแม้ปัจจุบันก็ยังฟรีอยู่ แต่ก็ไม่รู้จะฟรีไปอีกนานแค่ไหน   4.จะเอาเงินออกมาจากกระเป๋า โอนเข้าธนาคารค่าธรรมเนียม 15 บาทอีก   http://ext.truemoney.com/bill/ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aiwa&month=06-10-2015&group=19&gblog=24