ความแตกต่างของบัตรเครดิตกรุงไทย KTC

ก่อนอื่นต้องแนะนำก่อนว่าบัตรเครดิตที่เป็นธนาคารพาณิชย์มีแค่ 3 แห่งที่ไม่เสียค่าธรรมเนียมแบบเงื่อนไขสบายๆ คือ KTC กรุงศรี TMB ส่วนบางธนาคารก็ฟรีเหมือนกันแต่ เงื่อนไขอาจจะไม่เรียกว่าสบาย

เช่น กสิกร ต้องใช้ 12 ยอดใน 1 ปี ไป 2-3ปีแล้วจะได้ฟรีตลอดไป มันก็ทำได้ง่ายๆแหละแต่รู้สึกยุ่งยากใจมากกว่า

และอีกตัวอย่างก็เช่น UOB มีบางคนบอกฟรีตอนแรก หลังๆบางทีก็เปลี่ยนเป็นเสีย แล้วแบบนี้จะมั่นใจได้ยังไง

ถ้าประกาศมาเลยแบบใจหน่อยว่าฟรีตลอดไปเหมือนของ กรุงไทย มันก็จะได้อุ่นใจ

ส่วนบัตรเครดิตอีกกลุ่มคือบัตรจากสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ พวกนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่ามีบัตรอะไรที่ฟรีบ้าง คือในเรื่องของบัตรเครดิตนี้ เราจะแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ 2 กลุ่มคือ ธนาคารพาณิชย์ กับ สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ เช่น Tesco Lotus, บัตรเครดิตเซ็นทรัล

คราวนี้มาเจาะลึกของกรุงไทย ที่สนใจกรุงไทยก็เพราะในปัจจุบันนี้กรุงไทยเป็นที่ 1 ในเรื่องจำนวนบัตรเยอะประเภทมากที่สุด ประมาณ 70 กว่าใบ คือการตลาดเขาเป็นแบบนั้นและก็ทำสำเร็จด้วย คือมองว่าทุกใบเท่าเทียมกัน แต่ต่างกันตรงรูปแบบการใช้มากกว่า

คือสมัยก่อนบัตรแต่ละระดับจะเป็นเกรดเลยโดยแบ่งกันด้วยเงินเดือน

จะสมัครบัตรใบสูงๆได้ต้องเงินเดือนเยอะๆ 5หมื่นหรือ 7หมื่นอะไรแบบนี้

ระดับการแบ่งแต่ละแห่งก็น่าจะคล้ายๆกัน คือมันก็จะมี

ธรรมดา

บัตรทอง

ไทเทเนียม

แพลทินัม

บัตรของธนาคารกรุงเทพน่ะแบ่งแบบนี้เลย

แต่มาปัจจุบันนี้เกือบทุกแห่ง เงินเดือน หมื่น5 ก็สมัครบัตร แพลทินัม ได้หมดแล้ว

กลายเป็นบัตรธรรมดาที่ทุกคนก็มีได้เป็นเรื่องปกติแล้ว

แต่มันก็จะมีบัตรใหม่ที่ระดับสูงขึ้นมาเพิ่มนะ คืออย่างของ กรุงไทย

ในปัจจุบันถ้าไปอ่านใน 56-1 เขาจะบอกเลยว่าแบ่งเป็น 4 ระดับ

ระดับล่างคือ บัตรธรรมดา บัตรทอง

ระดับกลางคือ ไทเทเนียม

ระดับสูงคือ แพลทินัม

ระดับพรีเมียม KTC Signature, KTC World

แต่ถ้าไปดูเงื่อนไขการสมัครมันจะแบ่งเป็นแค่ 2 ระดับเท่านั้นคือ

เงินเดือน 15000 สมัครได้หมด 4 ใบนี้คือ บัตรธรรมดา บัตรทอง ไทเทเนียม แพลทินัม

เงินเดือน 50000 สมัคร KTC Signature และ KTC World ได้

(ข้อมูลวันที่ 23 สิงหาคม 2559)

คราวนี้มาเข้าเรื่องที่ต้องการจะบอกคือ ความแตกต่างของบัตรแต่ละแบบ

โดยจะเทียบแค่ 4 แบบ ระดับคนปกติเอื้อมถึงก็คือ บัตรธรรมดา บัตรทอง ไทเทเนียม แพลทินัม

โดยข้อมูลที่เอามาเทียบเอามาจาก 3 ที่

1.https://www.ktc.co.th/th/ktc/IndividualCustomers/credit/Search/

หน้านี้จะรวมบัตรทุกใบและมีอธิบายใบละนิดๆหน่อย

เช่น

  • ส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 5% สำหรับการซื้อตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ ผ่านศูนย์บริการการเดินทางและท่องเที่ยวสำหรับสมาชิกเคทีซี
  • อุ่นใจด้วยความคุ้มครองอุบัติเหตุจากการเดินทางสูงถึง 1,000,000 บาท

 

2.https://www.ktc.co.th/th/ktc/IndividualCustomers/credit/index.htm?typeLifeStyle=0&typeCard=0&index=10#

พอกดเข้าไปในแต่ละใบจะมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น

เช่น

  • อุ่นใจด้วยความคุ้มครองอุบัติเหตุจากการเดินทางสูงถึง 1,000,000 บาท
  • สิทธิพิเศษส่วนลดตลอดปีจากร้านค้าต่างๆ และสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำมากมาย ทั่วประเทศ ณ ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์
  • สะดวก คุ้มค่าทุกการเดินทางกับ KTC World Travel Service บริการข้อมูลเพื่อการเดินทาง และท่องเที่ยวสำหรับสมาชิกบัตรเครดิต KTC รับส่วนลดพิเศษสูงสุด 4% *สำหรับการซื้อตั๋วเครื่องบินในประเทศ สอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมที่ KTC World Travel Service โทร. 02 123 5050 หรือ www.ktcworld.co.th
    *ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงสิทธิประโยชน์ ส่วนลด และเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

3.กดเมนูสิทธิประโยชน์เพื่ออ่านฉบับเต็ม

มันก็จะมีรายละเอียดมากขึ้น

เช่น

  • เลือกได้เอง แลกได้เลย กับรายการ Forever Rewards icon_ktcforever ทุกๆ 25 บาทที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC รับ 1 คะแนน Forever Rewardsที่คุณสามารถใช้คะแนนสะสมเลือกซื้อสินค้า/บริการ แทนเงินสดได้เองทันที ณ ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ icon_ktcforever แล้วยังให้คุณเก็บคะแนนสะสมได้นาน โดยไม่มีวันหมดอายุ
  • ความคล่องตัวในการใช้จ่าย ด้วยวงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้
  • สะดวกสบายกับการจับจ่าย ณ สถานบริการและร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ icon-visa icon-mastercard ทั่วโลก
  • อุ่นใจกับความคุ้มครองจากแผนประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางรวมถึงคู่สมรส และบุตรที่มีอายุไม่เกิน 23 ปีบริบูรณ์ในกรณีใช้บัตรเครดิตชำระค่าตั๋วโดยสารยานพาหนะสาธารณะ วงเงินประกันสูงสุด 1 ล้านบาท
  • อิสระในการผ่อนชำระคืน เพียง 10% ของยอดเงินคงค้างแต่ไม่ต่ำกว่า 500 บาท
  • บริการเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า Cash Advance ได้ถึง 100% ของวงเงินที่เหลือขณะนั้น
  • แบ่งชำระสบายๆ กับดอกเบี้ย 0% หรือ 0.89% ต่อเดือน นานสูงสุด 10 เดือน กับ FLEXI บริการแบ่งชำระผ่านบัตรเครดิต
  • FLEXI by Phone อีกหนึ่งบริการของ FLEXI ที่มอบความสะดวกสบาย และความคล่องตัวทางการเงินให้แก่สมาชิกบัตรเครดิต KTC โดยสามารถเปลี่ยนยอดรายการซื้อสินค้า / บริการปกติที่ไหนก็ได้ รวมกันตั้งแต่ 3,000 บาทขั้นไป เป็นยอดการแบ่งชำระสบายๆ เดือนละเท่าๆกัน ด้วยอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.89% นาน 6-10 เดือน (แจ้งขอใช้บริการก่อนวันสรุปยอดค่าใช้จ่าย)ติดต่อขอใช้บริการได้ที่ KTC Phone 02 123 5000

ข้างบนนั้นคือตัวอย่างของบัตร KTC Visa Classic (บัตรธรรมดาของกรุงไทย)

ทีนี้ก่อนจะเปรียบเทียบจะมีอีกเรื่องคือเรื่อง Visa กับ MasterCard

คือทั้ง Visa และ MasterCard มันเหมือนเป็น สถาบันเจ้าของยี่ห้อของบัตรเครดิต(มั๊ง)

แล้วธนาคารก็เอายี่ห้อพวกนี้มาทำบัตรเครดิตให้เราใช้อีกที

โดยนอกจาก 2 ยี่ห้อนี้แล้วก็ยังมีเจ้าอื่นอีก เช่น American Express, JCB อันนี้น่าจะเป็นยี่ห้อของญี่ปุ่นเขา

กรุงไทยที่ออกบัตรของเจ้านี้ก็มี คือ KTC JCB Platinum

แต่ในไทยเรามันไม่นิยมเท่า Visa และ MasterCard 2 อันนี้มันนิยมพอๆกัน

คราวนี้กรุงไทยเวลาเขาออกบัตรเขาก็จะออกมาให้เลือกทั้ง 2 ยี่ห้อ เช่น ในระดับ Classic ก็จะมี

KTC Visa Classic กับ KTC Classic MasterCard

ระดับ Gold มี KTC Visa Gold กับ KTC Gold MasterCard

แล้วพอระดับถัดไปมันดันแยกสายกันคือ

Visa มันมี KTC Visa Platinum

ส่วน MasterCard มันมี KTC Titanium MasterCard

 

คราวนี้จากการรวบรวมข้อมูลสามารถบอกความแตกต่างแบบคร่าวๆได้ดังนี้คือ

1.KTC Visa Classic กับ KTC Classic MasterCard

ไม่มีความแตกต่าง

2.KTC Visa Gold กับ KTC Gold MasterCard

ไม่มีความแตกต่าง

3.Classic กับ Gold

แตกต่าง โดย

Classic คุ้มครองอุบัติเหตุจากการเดินทางสูงถึง 1,000,000 บาท

Gold คุ้มครองอุบัติเหตุจากการเดินทางสูงถึง 4,000,000 บาท

นอกนั้น เหมือนกันหมด

*อยากรู้แล้วแบบนี้ใครมันจะไปสมัคร Classic ฟะ ในเมื่อเงื่อนไขการสมัครก็เหมือนกันเลย งั้นทุกคนก็เลือก Gold น่ะสิ เพราะมันคุ้มครองมากกว่า แล้วจะทำมาเพื่ออะไร

4.สาย Visa เปรียบเทียบ KTC Visa Gold กับ KTC Visa Platinum

แตกต่าง โดย

Gold คุ้มครองอุบัติเหตุจากการเดินทางสูงถึง 4,000,000 บาท

Platinum คุ้มครองอุบัติเหตุจากการเดินทางสูงถึง 8,000,000 บาท + ประกันกระเป๋าเดินทางสูญเสียและสูญหายสูงสุดถึง 40,000 บาท/ครั้ง

นอกนั้น เหมือนๆกัน

5.สาย MasterCard เปรียบเทียบ KTC Gold MasterCard กับ KTC Titanium MasterCard

แตกต่าง โดย

ดูแล้ว Titanium น่าจะเหมือน Gold หมดเพียงแต่บวกความสามารถเพิ่มเข้าไปคือ

Titanium ใช้จ่ายที่ต่างประเทศจะได้ Rewards 2 เท่า อัตราดอกเบี้ย 0.69% เมื่อใช้บริการ FLEXI

6.เอา 2 ตัวมาเทียบกัน KTC Visa Platinum กับ KTC Titanium MasterCard

ต่าง 2 จุด

Titanium คุ้มครองอุบัติเหตุจากการเดินทางสูงถึง 4,000,000 บาท + ใช้จ่ายที่ต่างประเทศจะได้ Rewards 2 เท่า อัตราดอกเบี้ย 0.69% เมื่อใช้บริการ FLEXI

Platinum คุ้มครองอุบัติเหตุจากการเดินทางสูงถึง 8,000,000 บาท + ประกันกระเป๋าเดินทางสูญเสียและสูญหายสูงสุดถึง 40,000 บาท/ครั้ง

คือมองง่ายๆว่าทั้ง 2 ใบ มันอัพเกรดมาจาก Gold

โดย Titanium เพิ่มเรื่อง ใช้จ่ายที่ต่างประเทศจะได้ Rewards 2 เท่า อัตราดอกเบี้ย 0.69% เมื่อใช้บริการ FLEXI

ส่วน Platinum เพิ่มเรื่อง คุ้มครองอุบัติเหตุจากการเดินทางสูงถึง 8,000,000 บาท + ประกันกระเป๋าเดินทางสูญเสียและสูญหายสูงสุดถึง 40,000 บาท/ครั้ง

หรือมองว่าสายหลักของการอัพเกรดคือ

Classic

Gold

Platinum

ส่วน Titanium มันระดับเดียวกับ Gold แต่เพิ่มเรื่องการใช้งานที่ต่างประเทศ เข้าไป

จบ