Category: General

Command Prompt + Run as administrator. sc config LanmanWorkstation depend= “”

จากที่ใช้ Windows 10 มานานปัญหาที่เจออย่างแรกคือการ Update ที่ทำให้เครื่องอืดกินเวลาหลายชั่วโมงจนทำงานอะไรไม่ได้ แต่สามารถแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่งด้วยการ เข้าไปตั้งค่าให้เป็น Manual เราจะอัพเดตเองเมื่อเราพร้อม และใช้การ Defrag บ่อยๆ ช่วยทำให้ Update สบายขึ้นระดับหนึ่ง มาตอนนี้เจอปัญหาที่สองคือ จอดำ หลังจากทำการอัพเดต Windows ขอ Restart หลังจากนั้นก็เกิดปัญหาจอดำขึ้นมา จากการหาข้อมูลก็พบว่าคนอื่นเป็นกันมาสักพักแล้วมีวิธีแก้เยอะแยะใน Youtube ซึ่งตอนที่เกิดจอดำครั้งแรกแก้ไขด้วยการ Restart ซ้ำๆจน Windows มัน Automatic Repair แล้วก็เข้า Windows ได้ ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ *การจะให้ Windows มัน Automatic Repair เราต้องตัดไฟกระทันหันในขณะที่หน้าจอขึ้นโลโก้และมี Loading Icon อยู่ ก็คือการดึงปลั๊ก ทำแบบนี้ 2-3 ครั้ง Windows มันจะมองว่ามีปัญหาอะไรบางอย่างแล้วมันจะทำการ Automatic Repair ให้ หลังจากใช้งานได้ปกติก็เจอปัญหาจอดำเหมือนเดิม หลังจาก Update …

cryptocurrency คือ เงินดิจิทัลนั่นแหละ เช่น bitcoin ส่วนตัวที่ Brave แจกให้ผู้ใช้ Browser คือตัวที่ชื่อ BAT ย่อมาจาก Basic Attention Token เป็น 1 ใน หลายร้อย หรือพันตัวของเงินดิจิทัล สามารถไปดูได้ที่ [1] แต่เราถอนออกมาเป็นเงินตัวเองไม่ได้นะ ต้องเอาไปให้พวกออนไลน์ต่างๆ และต้องใช้ให้หมดด้วยมีกำหนดเวลา ไม่งั้นโดนเอาคืน อ่านรายละเอียดได้ที่ [2] [3] [4]       1.https://www.tradingview.com/markets/cryptocurrencies/quotes-all/ 2.http://cryptomining-blog.com/9343-brave-giving-away-30-bat-tokens-free-to-new-browser-users/ 3.https://basicattentiontoken.org/brave-grants-300000-crypto-tokens-to-browser-users/ 4.http://cryptomining-blog.com/9370-brave-has-announced-another-giveaway-of-bat-tokens-to-users/

ความเหมือนกันก็คือมันทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่มันก็มีความแตกต่างกันด้วย โดยเท่าที่ดูคร่าวๆมันมีความแตกต่างอยู่หลายมุมมอง ยกตัวอย่าง เช่น 1.Upgrade มันใหญ่กว่า มันสำคัญกว่า มันมากกว่า Update 2.Upgrade มันเป็นการทำกับตัวโปรแกรม ส่วน Update มันทำกับตัวข้อมูล 3.Upgrade มันเพิ่มความสามารถใหม่ๆเข้ามา Update มันแก้ปัญหาของสิ่งเดิมที่มีอยู่แล้ว   1.https://www.thebalance.com/what-is-a-software-update-vs-software-upgrade-1294256 2.http://www.technointrend.com/upgrade-vs-update/ 3.http://www.thailibrary.in.th/2014/02/11/upgrade-update/

eSATA ธรรมดามันจะมีไฟให้ใช้ 5V ซึ่งมันจะใช้งานได้กับ HDD ขนาด 2.5 แต่ถ้าจะใช้งานกับ HDD 3.5 ต้องใช้ที่เป็น Power eSATA จะมีไฟให้ 12V วิธีสังเกตว่าสายต่อและช่องเสียบของเราเป็นแบบไหนก็ให้ดูที่ขั้วด้านข้างจะเห็นเป็น Pin อยู่ 2 ฝั่ง     http://www.addonics.com/technologies/euhp.php

จาก http://www.petemarovichimages.com/2013/11/24/never-use-a-raid-as-your-backup-system/ บอกว่าอย่าใช้ Raid ในการทำ Backup อ่านแล้วอาจจะงง เพราะ Raid มันช่วยปกป้องข้อมูลได้กรณี HDD พังนะแล้วทำไมบอกว่าอย่าใช้ในการทำ Backup ล่ะ มันต้องอธิบายก่อนว่ามันมี 2 มุมมองคือ HDD กับ DATA 1.Raid 1 หรือ Mirror นั้นเราคาดหวังว่า HDD จะพัง (แล้วเราเปลี่ยนมันได้โดยไม่กระทบกับ Data) 2.Backup นั้นเราคาดหวังว่า Data จะพัง (Data ที่อยู่ใน HDD มีปัญหาไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม เช่นกดผิด โดนไวรัสหรือเจอ Bug ใน Software ทำให้ข้อมูลมีปัญหา) คือ Backup นั้นเราไม่คาดหวังให้ HDD พัง แต่เราคาดหวังว่า Data มันจะพังแล้วเราเอา Data เดิมก่อนที่จะพังกลับมาได้ใหม่ อาจมองการ Backup เหมือนกับการ เก็บข้อมูลไว้จุด …

ธรรมดาการใช้งาน HDD นั้นต้องเอามาติดตั้ง ต่อสายแล้วเปิดเครื่องมันจึงจะสามารถทำงานได้ แต่ HDD docking กับ HDD enclosure นั้นมาช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น สิ่งที่เหมือนกันของ 2 อย่างนี้คือมันเอา HDD มาใส่แล้วสามารถต่อกับ PC ได้เหมือนกับเป็นการเสียบ Flash Drive หรือ External HDD เลย แต่สิ่งที่ต่างกันคือ docking เน้นอยู่กับที่ไม่เน้นพกพา ส่วน enclosure เน้นพกพาติดตัวไปไหนมาไหน docking เน้นเปลี่ยน HDD สลับไปสลับมาถอดเข้าถอดออก ส่วน enclosure ใส่แล้วใช้ไป ไม่เน้นถอดเข้าๆออกๆ docking ไม่มีการป้องกันให้ตัว HDD ส่วน enclosure ป้องกันตัว HDD ไว้ได้ระดับหนึ่งเพราะมันคลุมตัว HDD ไว้เลย สรุปคือ docking มันช่วยอำนวยความสะดวกให้ Internal HDD ให้สามารถเสียบใช้งานได้ทันที เปลี่ยนถอดเข้าออกได้หลายลูก แต่พกพาไม่ได้ ส่วน enclosure มันแปลง Internal HDD ให้ทำตัวคล้าย …

NAS ก็คืออุปกรณ์สำหรับเก็บข้อมูลที่ติดตั้งไว้ใน Network ของเรามีประโยชน์หลายอย่างเช่นใช้ในการ Backup ข้อมูล แต่ที่เห็นชัดมากคือมักจะเป็นการใช้งานด้านความบันเทิงในบ้านมากกว่า โดยปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมเพราะราคาเริ่มถูกลงมาก พร้อมกับมีคำถามสำคัญตามมาคือ HDD(Hard Disk Drive) ที่จะใช้นั้นจำเป็นต้องใช้ HDD สำหรับ NAS โดยเฉพาะหรือไม่(HDD สำหรับ NAS มีหลายชื่อเรียกเช่น HDD for NAS, NAS HDD) ตอบ จำเป็น ถ้าเราใช้งานแบบ NAS ความแตกต่างมันต่างจาก Standard HDD หลายด้าน ที่ชัดๆเลยคือมันแพงกว่า HDD ทั่วไปเพราะว่ามันดีกว่า โดยดีกว่าในเรื่องที่ทำมาให้รองรับกับการใช้งาน  NAS เช่น เน้นเปิดทิ้งไว้ตลอดเวลา เร็วกว่า บริหารพลังงานดีกว่า จัดการปัญหาเวลาเกิด Error ดีกว่า มันเป็นความสามารถตรงกลางระหว่าง Desktop HDD กับ Server HDD คือถ้าเราใช้ HDD ธรรมดามันก็ใช้ได้ แต่ถ้ารูปแบบการใช้งานของเรามันตรงกับ HDD ที่ออกแบบมาสำหรับ …

ข้อมูลจาก [1] บอกว่ามี 3 โปรแกรม HD Tune นั้นรู้จักมานานแล้วใช้วัดความเร็วและตรวจความสมบูรณ์ของ HDD Atto Disk Benchmark ไม่เคยได้ยิน ส่วน CrystalDiskMark ใครๆก็บอกว่าเป็นตัวที่ดีที่สุดแล้ว ใช้ง่ายด้วย แต่มันมีค่าหลายค่าให้เลือกเยอะไปหมดเลยต้องลองหาข้อมูลว่าถ้าจะวัดประสิทธิภาพทั่วๆไปของ HDD มันต้องกดเลือกอะไรบ้าง เจอแบบง่ายๆเลยคือที่นี่ [2] เขาบอกให้เลือก test count 1 และ test size 50MiB เลือก test drive แล้วกด all เลยรอผลออกมาจบ วิธีอ่านค่าตามที่ [1] บอกคือ มี 2 ตัวที่สำคัญคือ seq กับ 4k(version 6.0.0 มันมีให้เลือกหลายแบบมาก) seq = sequential read/write = อ่านเขียนไฟล์ใหญ่ๆได้ดีไหม ถ้าดีก็เหมาะแก่การใช้ในการเก็บข้อมูล 4k = random read/write = อ่านเขียนข้อมูลที่กระจายอยู่ใน HDD …

เวลาทำงานมักจะใช้ Notepad ในการจดบันทึกไปด้วยระหว่างทำ ข้อดีคือมันเป็นโปรแกรมเบาๆติดมากับ Windows และหน้าตาเรียบง่าย และ Function ที่ถูกใจคือปุ่ม F5 ที่กดแล้วจะพิมพ์วันเวลาให้ทันที แต่สิ่งที่ติดขัดที่เจอคือกด Save ยาก ไม่ว่าจะกด Ctrl+S หรือ กด File > Save ถ้าจะให้ง่ายมันต้องมีปุ่มให้กด Save ได้ในคลิกเดียว อีกอย่างคือการ Undo มันทำได้จำกัดมากเลยคือย้อนกลับไปได้แค่ 1 Action ล่าสุดเท่านั้น เลยลองหาดูว่าโปรแกรมไหนจะคล้าย Notepad มากที่สุดแล้วเพิ่มเรื่องการ Save และ Undo มาให้ เข้าไปดูที่ [1] เจอ 2 โปรแกรมที่น่าสนใจคือ TED Notepad กับ Notepad2 TED Notepad นั้นหน้าตาเหมือน Notepad เลย เรียบง่ายดีแต่เท่าที่ลองใช้ยังไม่ตอบโจทย์เรื่องการ Save และ Undo และเจออีกเรื่องคือ Font ที่เราต้องเลือกว่าจะใช้ Font …